สุขภาพครรภ์ของคุณแม่จะเป็นอย่างไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการเลือกรับประทานอาหาร เพราะอาหารนี่แหละที่จะบำรุงร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในเวลาเดียวกัน อีกทั้งเป็นที่รู้กันว่าเมื่อตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องลด ละ เลิกอาหารบางชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีหรือเชื้อโรคบางอย่างไปทำอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ ดังนั้นคำถามแรกที่คุณแม่ควรถามเมื่อรู้ตัวว่าท้องคือ คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง?

Mama’s Choice ได้รวบรวม 10 อาหารที่คนท้องต้องเลี่ยง พร้อมบอกเหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์คห้ามกินสิ่งเหล่านี้มาให้แล้วค่ะ ไปดูกันเลย!

คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง?  10 สุดยอดอาหารท็อปฮิตที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

1. ปลาที่มีอาจมีสารปรอทปนเปื้อน 

สารปรอท นับว่าเป็นสารที่มีพิษร้ายแรง อีกทั้งยังถูกขนานนามว่าเป็นศูนย์รวมของมลพิษจากทั่วโลก ซึ่งจากการศึกษาพบว่า หากเจ้าตัวน้อยในครรภ์มีการสัมผัสกับสารปรอท จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของพวกเขาได้ โดยทั่วไปแล้ว ปลาที่มีขนาดใหญ่จะเป็นปลาที่มีปริมาณสารปรอทสูงกว่าปลาชนิดอื่น ๆ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณแม่หลีกเลี่ยงการรับประทานปลาเหล่านี้ ไม่ว่าคุณแม่จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ มีการวางแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร มีปลาอะไรบ้าง ดังนี้

• ฉลาม
• ปลากระโทงดาบ
• ปลาอินทรีย์
• ปลาทูน่า พันธุ์ตาโต
• ปลามาร์ลิน (ปลาทะเลขนาดใหญ่)
• ปลาไทล์ฟิช จากอ่าวเม็กซิโก
• ปลาหัวเมือก
• ปลากะพงขาว
• ปลาน้ำลึก

ข้อแนะนำ อย่างไรก็ตาม ปลายังคงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ แต่ควรจะเลือกรับประทานปลาเพียงบางชนิดเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อยในครรภ์ เช่น ปลานิล ปลาแฮร์ริ่ง ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ปลากะตัก ปลาคอด (ปลาหิมะ) และปลาลิ้นหมา 

2. ไข่ดิบ

หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะชอบทานไข่ลวกหรือบรรดาเมนูไข่ที่มีความกึ่งสุกกึ่งดิบ ก็ถึงเวลาที่ต้องหลีกเลี่ยงกันแล้วค่ะ เนื่องจากไข่ดิบสามารถปนเปื้อนแบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) ที่อาจทำให้อาหารเป็นพิษได้

สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ การติดเชื้อซาลโมเนลลาอาจส่งผลเสียกับร่างกายได้ ตัวอย่างเช่น ทำให้มีอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ทำให้ทารกตกอยู่ในภาวะตายคลอด (ทารกเสียชีวิตในครรภ์เนื่องจากเกิดภาวะแทรกซ้อน) เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่เมนูอาหารคาวต่างๆ เท่านั้นที่คุณแม่ควรจะระมัดระวัง แต่ยังรวมไปถึงอาหารจำพวกซอสฮอลแลนเดส น้ำสลัด หรือมายองเนสโฮมเมดด้วย

ข้อแนะนำ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ คุณแม่ควรที่จะปรุงไข่ให้สุกดีหรือหันไปใช้ไข่ที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้วแทนนะคะ

3. อาหารทะเลดิบ

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่านต้องเป็นหนึ่งในสาวกของอาหารอย่างซูชิและซาซิมิกันแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ  แต่หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ก็ขอบอกว่าต้องโบกมือลาอาหารที่ชอบกันไปยาวๆ จนกว่าคุณแม่จะคลอดเจ้าตัวเล็กกันเลย เนื่องจากการบริโภคอาหารทะเลดิบ โดยเฉพาะปลานั้น อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียและปรสิต จำพวกอีโคไล (E.coli), ลิสทีเรีย (Listeria) และซาลโมเนลลาได้เช่นกัน

ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้มีการเปิดเผยว่า คุณแม่ตั้งครรภ์มีโอกาสติดเชื้อลิสเทอเรียมากถึง 10 เท่า ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์ได้ ตัวอย่างเช่น ทำให้เกิดการแท้งบุตร ทำให้ทารกมีภาวะตายคลอด และทารกแรกเกิดอาจมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ เป็นต้น

ข้อแนะนำ หากอดใจไม่ไหว คุณแม่ก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานซูชิของคุณได้ แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารทะเลบนหน้าของข้าวปั้นนั้นได้รับการปรุงให้สุกดีแล้ว 

4. ผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์

หากคุณแม่เลือกที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากคุณแม่จะต้องเผชิญกับเจ้าเชื้อลิสทีเรียและแบคทีเรียอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคลิสเทอริโอซิส (Listeriosis) ที่อาจทำให้เกิดการแท้งบุตรหรือเกิดภาวะตายคลอดได้เหมือนอย่างที่เราได้กล่าวกันไปแล้วข้างต้น

คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นมชนิดใด? โดยทั่วไปแล้ว คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จำพวกชีสเนื้อนุ่ม เช่น บรี (brie) กามองแบร์ (camembert) หรือกอร์กอนโซลา (gorgonzola) ผลิตภัณฑ์จากนมวัวที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์จากนมแพะ ก็ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันค่ะ

ข้อแนะนำ เลือกรับประทานอาหารและดื่มผลิตภัณฑ์จากนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์เท่านั้น โดยคุณแม่ควรตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนเลือกบริโภค

5. ชา กาแฟ หรือคาเฟอีนที่มากเกินไป

จริงๆ แล้ว การที่คุณแม่บริโภคคาเฟอีนในระหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องที่ถึงกับถูกห้าม เพียงแต่ควรจำกัดคาเฟอีนให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากการบริโภคคาเฟอีนที่มากเกินไปสามารถไปขัดขวางพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำว่า ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 200 มก. ต่อวัน หรือเทียบเท่ากับกาแฟประมาณหนึ่งถ้วยครึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่คุณแม่ต้องระมัดระวังไว้ด้วยก็คือ คาเฟอีนนั้นไม่ได้มีอยู่แค่เพียงในกาแฟเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนด้วย เช่น ชา 

ข้อแนะนำ หากคุณแม่รู้สึกอยากดื่มกาแฟ ให้เลือกใช้แก้วให้เล็กลงทุกครั้งที่รู้สึกอยากดื่มเพื่อที่จะได้ลดปริมาณของคาเฟอีนลงไปได้ในทันที อีกวิธีก็คือลดปริมาณของกาแฟ และเพิ่มนมลงไปเยอะๆ แทน เพราะนอกจากจะช่วยลดปริมาณของคาเฟอีนได้แล้วนั้น ยังเป็นการช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกายอีกด้วย

6. แอลกอฮอล์

สำหรับการดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์นั้นถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามกันเลยทีเดียวค่ะ เพราะจากข้อมูลของ CDC ได้กล่าวไว้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์นั้น อาจทำให้เจ้าตัวน้อยของคุณแม่มีลักษณะใบหน้าผิดปกติได้

และแม้ว่าจะพ้นช่วง 3 เดือนแรกไปแล้ว แอลกอฮอล์ยังคงส่งผลเสียต่อร่างกายในระหว่างการตั้งครรภ์ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำให้น้ำหนักแรกเกิดของทารกต่ำกว่าเกณฑ์ ส่งผลต่อปัญหาพฤติกรรมในเด็ก เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร เสี่ยงที่จะเกิดภาวะตายคลอด และกลุ่มอาการทารกเสียชีวิตอย่างกะทันหันได้ด้วยเช่นกัน

ข้อแนะนำ แอลกอฮอล์ทุกประเภทล้วนเป็นอันตรายในระหว่างการตั้งครรภ์ แม้ว่าคุณแม่จะไม่ได้วางแผนที่จะตั้งครรภ์มาก่อน แต่พบว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคุณแม่แล้ว ก็ควรที่จะหยุดดื่มแอลกอฮอล์ทันทีนะคะ

7. เนื้อดิบและเนื้อกึ่งดิบกึ่งสุก

ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อที่สุกระดับปานกลาง (medium rare) หรือไม่สุกเลย (rare) นาทีนี้ก็ต้องขอให้คุณแม่รีบเบรกตัวเองไว้ก่อนเลย เพราะอาหารเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและปรสิตที่เป็นอันตราย เช่น อิโคไล, ซาลโมเนลลา, แคมไพโลแบกเตอร์ (Campylobacter) และ ท็อกโซพลาสมา กอนดิ (Toxoplasma Gondii) ไม่ต่างจากอาหารทะเลดิบ และอาจส่งผลเสียอย่างรุนแรงกับลูกน้อยในครรภ์ เช่น สูญเสียการได้ยิน ตาบอด มีความบกพร่องทางสติปัญญาและเกิดความบกพร่องทางสมองหรือสายตาได้ แม้ว่าตัวคุณแม่เองจะไม่ได้รู้สึกป่วยขณะตั้งครรภ์เลยก็ตาม

ข้อแนะนำ หากคุณแม่เลือกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ก็ควรเลือกสั่งอาหารที่ปรุงสุกดีแล้วเท่านั้น หรือหากคุณแม่เตรียมทำอาหารทานเองที่บ้าน ก็ควรล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาดและปรุงอาหารให้สุกด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม

8. อาหารเนื้อตัดเย็น เนื้อสัตว์แปรรูป

เจ้าเชื้อลิสทีเรียไม่ได้อยู่เพียงแค่ในอาหารทะเลดิบและนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์เท่านั้น แต่ยังแฝงตัวปนเปื้อนเข้ามาในระหว่างการแปรรูปหรือการเก็บรักษาอาหารจำพวกไส้กรอก เนื้อสัตว์สำเร็จรูป และเนื้อสัตว์แปรรูปอื่นๆ ได้อีกด้วย

ข้อแนะนำ หากคุณแม่ตั้งครรภ์ท่านไหนชื่นชอบการรับประทานแซนด์วิชซาลามิ (ที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์หมักเค็ม) ก็ยังสามารถรับประทานได้ตามปกตินะคะ แต่เราขอแนะนำให้คุณแม่อุ่นแซนด์วิชให้ร้อนเพื่อฆ่าแบคทีเรียต่างๆ ที่ปนเปื้อนอยู่ในเนื้อสัตว์ก่อนรับประทาน

9. น้ำตาลที่มากเกินไป

คงไม่มีใครไม่ชอบขนมหวาน ขอแค่ได้ชิมสักหน่อยก็ยังดีใช่ไหมล่ะคะ แต่อย่างไรก็ตามการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ควร มีสาเหตุมากมายที่ระบุว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไป ตัวอย่างเช่น ทำให้น้ำหนักเพิ่มสูงเกินเกณฑ์ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ทำให้น้ำหนักทารกแรกเกิดต่ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

ข้อแนะนำ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะอดใจไม่ทานของหวาน แต่คุณแม่ก็สามารถเลือกที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อช่วยควบคุมน้ำตาลกันได้ เช่น ลดปริมาณของว่างระหว่างมื้ออาหาร เลือกทานไฟเบอร์ให้มากขึ้นเพื่อช่วยให้คุณแม่อิ่มนานขึ้น หรือหันมาทานผลไม้แทน แต่หากคุณแม่ยังอยากทานของหวานอยู่ การแบ่งช็อคโกแลตเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆ ทานเป็นระยะๆ ก็น่าจะเพียงพอที่จะควบคุมความอยากทานของหวานแล้วค่ะ

10. ต้นอ่อนสด

หากคุณแม่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์ การทานสลัดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพมาก แต่การทานต้นอ่อนสดขณะตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องที่เราไม่แนะนำสักเท่าไรนะคะ หากคุณแม่ลองสังเกตก็จะเห็นว่าต้นอ่อนของเมล็ดถั่วต่างๆ นั้นมีการเติบโตภายใต้สภาพอากาศที่ชื้น ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้แหละค่ะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่าง ซาลโมเนลลา, ลิสทีเรีย และ อีโคไล ซึ่งสอดคล้องกับทางองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drung Administration : FDA) ที่ได้ออกมาระบุอีกว่า เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานต้นอ่อนสดเหล่านี้

ข้อแนะนำ หากคุณแม่อยากรับประทานต้นอ่อนเหล่านี้ การล้างทำความสะอาดอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะกำจัดแบคทีเรียให้หมดไปได้ ดังนั้นคุณแม่อย่าลืมที่จะปรุงให้สุกก่อนนำมารับประทานด้วยนะคะ

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณแม่คงจะทราบกันดีแล้วว่ามีอาหารชนิดไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงหรือห้ามรับประทานเลยในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นอาหารที่คุณแม่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย เพียงแต่คุณแม่ต้องมั่นใจด้วยว่าได้ล้างทำความสะอาดอาหารเหล่านั้นและผ่านกระบวนการปรุงให้สุกดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่าคุณแม่จะเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารมากแค่ไหน ก็อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดภายในช่องปากด้วยยาสีฟัน Mama’s Choice Non-Fluoride Toothpaste และน้ำยาบ้วนปาก Mama’s Choice Alcohol-Free Mouthwash ทุกครั้งหลังรับประทานอาหารกันด้วยนะคะ

สรุปส่งท้าย หากคุณแม่กำลังพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมการดื่มคาเฟอีนหรือทานซูชิอยู่นั้น ให้ท่องไว้ในใจบ่อยๆ เลยนะคะว่าคุณแม่กำลังทำเพื่อให้เจ้าตัวน้อยในครรภ์มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าได้กังวลไปเลยค่ะ 

เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของ Mama’s Choice Thailand ได้ที่ Shopee Official Store

Kankanid

Content Manager at Mama's Choice