ท้องแตกลาย ในระหว่างตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติ โดยมักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีคอลลาเจนในผิวน้อย แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราจะพาคุณแม่ไปเรียนรู้วิธีเอาชนะปัญหานี้ในระหว่างตั้งครรภ์กันค่ะ

แม้ว่าการเอาชนะปัญหานี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณแม่สามารถทำได้ด้วยการเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อช่วยเอาชนะปัญหานี้ไปให้ได้ค่ะ

ผิวแตกลายคืออะไร?

ผิวแตกลายคือรอยแตกลายบนผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย หน้าท้อง สะโพก เต้านม ต้นแขน และสะโพกส่วนล่าง โดยเกิดขึ้นเมื่อคอลลาเจนในผิวแตกออกจากกัน เพราะคอลลาเจนมีบทบาทสําคัญเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของผิว

ปัญหาผิวประเภทนี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์เท่านั้น แม้แต่ผู้หญิงทั่วไปและผู้ชายธรรมดาก็สามารถเผชิญปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน

ประเภทของผิวแตกลาย

ก่อนที่จะไปค้นพบกับวิธีแก้ปัญหา คุณแม่ควรทำความรู้จักกับประเภทของปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ก่อน โดยก่อนที่ที่ผิวหนังจะเริ่มปรากฏรอยขึ้น ผิวของคุณแม่มักจะดูบางหรือกลายเป็นสีชมพู รอยแตกของผิวอาจดูเหมือนริ้วรอยในตอนแรก แต่มันจะค่อยๆ เปลี่ยนสีและทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวเริ่มดูแตกต่างจากส่วนอื่นๆ

ซึ่งรอยผิวแตกลายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Striae Rubrae (มีลักษณะเป็นเส้นสีชมพูหรือสีแดง) และ Striae Albae (มีลักษณะเป็นเส้นสีขาว)

ความแตกต่างระหว่างรอยแตกลายสีแดงและสีขาว

ในตอนเริ่มแรกรอยจะมีสีแดง ลักษณะเหมือนเป็นแผลใหม่เนื่องจากผิวเริ่มแตก ซึ่งนอกจากจะมีสีแดงแล้วผิวที่แตกลายก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงด้วย รอยแตกลายสีแดงเราเรียกอีกอย่างว่า “striae rubra”

เมื่อเวลาผ่านไป รอยแตกลายสีแดงจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือที่เรียกว่า “striae alba” ซึ่งรอยแตกลายสีขาวนั้นจะรักษาและทำให้จางลงได้ยากกว่ารอยแตกลายสีแดง

สีแดงของรอยแตกลายบ่งชี้ว่ามีเส้นเลือดใต้ผิวหนังอยู่ ในระยะนี้การรักษาจะเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากผิวหนังยังสามารถทำปฏิกิริยาได้

ในขณะที่รอยแตกลายสีขาวเป็นสัญญาณว่าหลอดเลือดเริ่มตีบตัน ในระยะนี้ประสิทธิภาพของการรักษาเพื่อลบรอยแตกลายจะลดลงและใช้เวลานานในการรักษาฟื้นฟู

นอกจากนี้ ยังมีลักษณะของผิวแตกลายประเภทอื่นๆ อีก ได้แก่

ผิวแตกลายที่เกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Striae Gravidarum
ผิวแตกลายที่เป็นเส้นสีเทาหรือสีดําที่มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีผิวคล้ำเรียกว่า Striae Nigrae
ผิวแตกลายที่เป็นเส้นสีน้ําเงินเข้มหรือสีม่วง หรือเรียกอีกอย่างว่า Striae Caerulea
ผิวแตกลายที่เกิดขึ้นเนื่องจากผิวบางสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีอาการคุชชิง (อาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากระดับคอร์ติซอลในร่างกายสูง) มักเรียกกันว่า Striae Atrophicans

สาเหตุของการเกิด ท้องแตกลาย

ปัญหาผิวแตกลายเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่มักจะพบได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้

1. การตั้งครรภ์

50-90% ของคุณแม่ตั้งครรภ์จะเจอปัญหานี้ในระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอด

การตั้งครรภ์จะทำให้คุณแม่น้ำหนักขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสที่สองและสาม ภาวะนี้ทำให้ผิวหนังตึงโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ต้นขา และสะโพก หากผิวหนังมีปัญหา เช่น แห้งและคัน รอยแตกลายก็จะปรากฏมากขึ้น

2. การเข้าสู่วัยรุ่น

คนที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเองก็สามารถเป็นรอยแตกลายได้ เพราะเกิดจากการเติบโตของร่างกายอย่างกะทันหัน เข่น การเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างรวดเร็ว โดยรอยแตกลายมักปรากฏบนกระดูกเชิงกรานและหน้าอกของเด็กสาววัยรุ่น

3. การเพิ่มขึ้นของกล้ามเนื้อ

การเข้ายิมออกกำลังกายที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างกล้ามเนื้ออาจทำให้เกิดรอยแตกลายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นในเวลาอันสั้นและมีขนาดที่ใหญ่นั่นเอง

4. การขยายของหน้าอก

หน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นอาจทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าอกยืดออกได้ ซึ่งความเสี่ยงของการเกิดรอยแตกลายนั้นก็ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นด้วยเช่นกัน

5. การรับประทานยา

การได้รับยาจากการแพทย์ที่อาจทำให้เกิดรอยแตกลาย เช่น Marfan syndrome และ Cushing’s syndrome

6. การใช้ Corticosteroid

การใช้โลชั่นและครีมที่มีคอร์ติโคสเตียรอยด์เป็นประจําอาจทำให้ระดับคอลลาเจนบนผิวลดลง ซึ่งคอลลาเจนมีหน้าที่สำคัญในการเสริมสร้างและซัพพอร์ตผิวหนังซึ่งช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแตกบนผิวหนัง

วิธีป้องกันและกำจัดรอยบน ท้องแตกลาย

จะเห็นได้ว่าปัญหาผิวผิวแตกลายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ใช่แค่เฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์เท่านั้น ปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลีกเลี่ยงแต่ก็สามารถแก้ไขและทำให้จางลงได้ไม่ยากตามวิธีเหล่านี้!

1. เลเซอร์ลบรอย

สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันและกำจัดรอยแตกลาย ควรรักษาผิวให้ชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำมากๆ ,รับประทานวิตามิน C และ E (โดยปรึกษาเภสัชกรก่อนทุกครั้ง) รวมถึงการเลเซอร์เพื่อลบรอยแตกลาย

ด้วยการรักษาโดนใช้เลเซอร์ พลังงานแสงจะทะลุผ่านชั้นหนังกำพร้าและช่วยกระตุ้นผิวหนังชั้นหนังแท้เพื่อลบรอยแตกลายให้จางลงจากเดิม แต่ก็ควรเลเซอร์อย่างต่อเนื่อง 3-4 ครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

2. ใช้ครีมเตรทติโนอิน (tretinoin)

นอกจากนี้ การใช้ครีมเตรทติโนอินยังสามารถช่วยลดรอยแตกลายได้อีกด้วย เพราะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวและเร่งการผลัดเซลล์ โดยที่ครีมนี้สามารถหาซื้อได้จากคลินิกและร้านขายยาทั่วไปภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างแพง

3. ใช้เครื่องไมโครเดอมาเบรชั่น (Microdermabrasion)

ไมโครเดอร์มาเบรชั่น (Microdermabrasion) เป็นการใช้เครื่องมือขัดผิวชั้นนอกด้วยเพชรหรือผงคริสตัลเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และรอยแตกลายที่เกิดขึ้นได้ แต่ข้อเสียก็คือ มีราคาแพง และก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น รอยแดง บวม หรือถลอก เป็นต้น

4. ใช้ครีมลดรอยแตกลาย

การใช้ครีมลดรอยแตกลายเป็นประจำจะช่วยให้ผิวบริเวณที่มีรอยนั้นมีความชุ่มชื้น ลดอาการคันบริเวณผิวที่ตึง และช่วยลดเลือยรอยแตกลายลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญเลยคือ มีราคาไม่แพงเลยค่ะ!

แนะนำ Mama’s Choice Stretch Mark Cream ครีมลดรอยแตกลาย ที่คิดค้นมาเพื่อคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้มีปัญหาผิวแตกลายโดยเฉพาะ มีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ครีมนี้ยังเหมาะสำหรับการให้ความชุ่มชื้นและช่วยลดอาการคัน

@mamaschoice.th

จะกี่รอยแตกลาย แม่ก็ไม่หวั่นจ้า #ครีมลดรอยแตกลาย #รีวิวบิวตี้#มาม่าส์ช้อยส์

♬ original sound – mamaschoice.th – Mama’s Choice Thailand

ทำไมครีมลดรอยแตกลาย Mama’s Choice ถึงใช้ได้ผล?

ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติเหล่านี้….

☘️ ว่านหางจระเข้ – เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว บรรเทาอาการคัน

☘️ เมล็ดถั่ว – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย

☘️ เชียบัตเตอร์และน้ำมันมะกอก – ต้านอนุมูลอิสระ ปลอมประโลมผิวที่แห้งแตกคัน

☘️ น้ำมันโจโจ้บา – ต้านการอักเสบ บำรุงและคืนความยืดหยุ่นให้ผิว

รับรองความปลอดภัย และปราศจากสารเคมีอันตราย

❌ ไม่มีพาราเบน ❌ ไม่มีพทาเลต ❌ ไม่มีไตรโคลซาน ❌ ไม่มี SLS ❌ ไม่มีแอลกอฮอล์

ซื้อเลยวันนี้ในราคาพิเศษ เหลือเพียง 249.- จาก 319.- | จัดส่งฟรี!

คำแนะนำในการใช้ครีมลดรอยแตกลาย

สำหรับสตรีมีครรภ์ ขอแนะนำให้ใช้ทุกเช้าและกลางคืน ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์หรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควรทาและนวดเป็นวงกลมเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดจนกว่าครีมจะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เต็มที่

สำหรับรอยแตกลายที่ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ สามารถใช้ได้ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6-8 เดือน โดยทาที่บริเวณหน้าท้อง หน้าอก สะโพก ต้นขาและขาเพื่อผลลัพธ์สูงสุด

ดูรีวิวการใช้ครีมจากคุณแม่ขนมจีน ที่อยากบอกต่อผลิตภัณฑ์คุณภาพดีให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ และผู้ที่มีปัญหาผิวแตกลายให้ได้ใช้กันค่ะ