เชื่อว่าคุณแม่หลายๆ ท่านต้องเคยเผชิญกับปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำจากฝ้า กระ และจุดด่างดำกันมาแล้ว เพราะจัดเป็นปัญหาลำดับแรกๆ ของผู้หญิงที่มักถูกพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยเพราะรอยแผลเป็นจากสิว ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด หรือฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากการตั้งครรภ์ก็ตาม
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ก็คงจะหนีไม่พ้นผลิตภัณฑ์จำพวก whitening รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครีม โลชั่น เจล เซรั่ม และอื่นๆ ซึ่งมีส่วนผสมสำคัญอย่าง ‘ไฮโดรควิโนน’ (Hydroquinone) ที่ช่วยทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้น
ไฮโดรควิโนนคืออะไร? อันตรายหรือไม่? ในบทความนี้ Mama’s Choice ขอพาคุณแม่ทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับเจ้าสารเคมีตัวนี้กันค่ะ
ไฮโดรควิโนน คืออะไร?
ไฮโดรควิโนนคือสารเคมีชนิดหนึ่งมักพบได้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำ ซึ่งสารตัวนี้จะทำหน้าที่ในการยับยั้งไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวหรือเมลานิน เป็นผลทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้น ขณะเดียวกัน ฝ้า กระ และจุดด่างก็ดูจางลง
ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น American Osteopathic College of Dermatology (AOCD) ได้อนุญาตให้ใช้ไฮโดรควิโนนเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ไม่เกิน 2% เพื่อเป็นการเร่งให้เกิดผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น และสามารถวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปได้
อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์นี้จะต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และควรที่จะใช้ควบคู่ไปกับครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เนื่องจากไฮโดรควิโนนมีความไวต่อแสงเป็นอย่างมาก หากถูกแสงแดดกระทบโดยไม่มีครีมกันแดดป้องกันจะทำให้ผิวกลับไปหมองคล้ำยิ่งกว่าเดิม
ไฮโดรควิโนน อันตรายจริงหรือไม่?
ในประเทศไทย ไฮโดรควิโนนได้ถูกสั่งห้ามใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ ยกเว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากแพทย์ (รักษาโรคเฉพาะทาง) ใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม หรือชุดทำเล็บเทียมเท่านั้น เนื่องจากเป็นอันตรายต่อผิวของผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
อย่างไรก็ดี ยังมีการลักลอบใช้ไฮโดรควิโนนเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ต่างๆ ที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ต้องลักลอบจำหน่ายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะช่องทางการขายยอดฮิตอย่างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาเชิญชวนให้คนหลงเชื่อ ซึ่งก็มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นทาสของการตลาดและสั่งซื้อมาลองใช้กันจนทำให้ผิวหน้าแย่ลงกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีผิวบอบบางมากกว่าปกติ จัดว่าเป็นอันตรายต่อผิวมากทีเดียว ตัวอย่างเช่น เกิดอาการแพ้รุนแรง ผิวระคายเคือง ผิวหนังแห้งและอักเสบ เกิดรอยแดง ผิวหน้ากระดำกระด่าง เกิดฝ้าถาวร เป็นต้น
แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยว่าการใช้ไฮโดรควิโนนในผู้หญิงตั้งครรภ์จะส่งผลเสียกับทารกในครรภ์ แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีที่ถูกดูดซึมได้ง่ายมากๆ อีกทั้งยังไม่มีผลการวิจัยที่ชัดเจน ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่านหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีตัวนี้ดีกว่าค่ะ
ผิวกระจ่างใสด้วยสารสกัดธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย
แน่นอนว่าการใช้สกินแคร์ต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการดูแลและบำรุงผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใสเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะมีทางไหนบ้างที่จะทำให้ผิวไม่ถูกทำร้ายจากสารเคมีอย่างไฮโดรควิโนน?
Mama’s Choice ขอแนะนำให้แม่ทุกๆ ท่านลองหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มความสวยใสให้กับผิว ช่วยทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำให้ดูจางลง และไม่ทำร้ายผิว โดยมีสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการช่วยแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ได้ สารสกัดธรรมชาติเหล่านี้มีอะไรบ้าง? มาเริ่มกันเลยค่ะ
1. สารสกัดจากข้าว (Rice Extract)
ข้าว หนึ่งในเคล็ดลับเพิ่มความสวยที่มีการนำมาใช้กันตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการทำวิจัยมากมายจนค้นพบว่าทุกๆ องค์ประกอบที่ได้มาจากการนำข้าวมาสกัดล้วนแต่มีประโยชน์กับผิว โดยเฉพาะวิตามิน E และแกมมา โอไรซานอล (Gamma Oryzanol) ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบของผิว อีกทั้งยังช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดการผลิตของเม็ดสีผิวหรือเมลานินที่เกิดจากการทำงานของเอนไซม์อย่างไทโรซิเนส (Tyrosinase) นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสารสกัดจากช่วยถึงช่วยให้ผิวของคุณดูขาวขึ้นและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
2. สารสกัดจากชะเอม (Licorice Extract)
ชะเอม วัตุดิบจากธรรมชาติที่ถูกใช้กันมาอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในศาสตร์ของแพทย์แผนจีนที่มักจะนำมาใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังทุกชนิด และในปัจจุบันก็มีข้อมูลมากมายที่เผยถึงสรรพคุณของต้นชะเอม โดยเฉพาะสารสกัดจากรากชะเอมที่มีสาร Glabidin หนึ่งในสารที่ออกฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เป็นตัวผลิตเมลานินได้มากถึง 50% โดยไม่ทำร้ายผิว จึงทำให้ผิวแลดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สารสกัดจากรากชะเอมยังช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง มีประสิทธิภาพในการรักษารอยดำและรอยแดงที่เกิดจากรอยแผลของสิวได้อีกด้วย
3. สารสกัดจากต้นหม่อน (Morus Alba Extract)
ต้นหม่อนหรือมัลเบอร์รี่ มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีสรรพคุณมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน โคเลสเตอรอลสูง เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังถูกนำมาใช้ในเรื่องของความสวยความงาม ซึ่งโดยปกติแล้วใบของหม่อนจะเป็นส่วนที่ถูกนำมาใช้สกัดเป็นส่วนผสมลงไปในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เนื่องจากใบของต้นหม่อนนั้นมีกรด Gallic, Quercetin และกรดไขมันจำเป็นอีกหลากหลายชนิดที่มีส่วนในการช่วยยั้งยับการทำงานของไทโรซิเนสที่เป็นตัวผลิตเมลานิน และจากผลการศึกษาพบว่าสารสกัดหม่อนเข้มข้นเพียงแค่ 0.4% ก็สามารถช่วยลดการทำงานของไทโรซิเนสได้มากถึง 50% ส่งผลทำให้ผิวดูขาวขึ้น จุดด่างดำต่างๆ ก็ดูจางลง
4. สารสกัดจากว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Extract)
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรที่ถูกขนานนามว่าเป็น “สมุนไพรมหัศจรรย์จากธรรมชาติ” เนื่องจากมีสรรพคุณทางยาในช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการโดนความร้อนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น แผลโดนน้ำร้อนลวก แผลไฟไหม้ เป็นต้น นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังถูกนำมาใช้ด้านของความสวยความงาม เนื่องด้วยมีสารสำคัญอย่าง Aloctin A , Glycoprotein, Vitamin C และอื่นๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่แยกได้จากต้นว่านหางจระเข้ และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอย่างรอยดำและรอยแดงได้ดี อีกทั้งยังมีฤทธิ์ในการช่วยสมานแผลและปลอบประโลมผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้อีกด้วย
5. สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract)
โสม ถือเป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการแพทย์แผนโบราณมามากกว่าหนึ่งพันปี ซึ่งส่วนใหญ่โสมจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงสภาพผิว ตลอดจนรักษาโรคต่างๆ อย่างไรก็ดี โสมเพิ่งจะกลับเข้ามาอยู่ในกระแสอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการทำวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโสมที่ตอบสนองต่อผิวหนังและค้นพบว่าในสารสกัดจากโสมนั้นมีกรด P-coumaric และ Ginsenoside ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันรังสี UVB และช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินที่เกิดจากทำงานของไทโรซิเนสจึงช่วยทำให้ผิวแลดูขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
6. สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่ (Bearberry Extract)
สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่ คือ สารสกัดที่ได้มาจากใบของต้นแบร์เบอร์รี่ โดยทั่วไปมักนำใช้เป็นยาสมานแผล แต่ขณะเดียวกันก็ยังค้นพบองค์ประกอบที่สำคัญอย่าง Alpha Arbutin ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีส่วนช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากนี้ อัลฟ่า อาร์บูติน ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงยังสามารถช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้าและกระได้อีกด้วย
7. กรดโคจิก (Kojic Acid)
กรดโคจิก อีกหนึ่งสารสกัดที่ได้จากกระบวนการหมักต่างๆ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นได้มีการนำทางเลือกจากธรรมชาติอย่างกรดโคจิกมาใช้แทนไฮโดรควิโนน เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการช่วยยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสได้มากกว่า ทำให้สามารถช่วยลดความหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำ และช่วยทำผิวดูขาวขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เป็นอันตรายกับผิว
8. สารสกัดจากผลไม้ประเภทซีตรัส (Citrus Extract)
Vitamin C องค์ประกอบสำคัญที่ได้มาจากการสกัดผลไม้ประเภท Citrus จำพวก ส้ม มะนาว ซึ่งวิตามินซีจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยชะลอการสร้างเมลานินใต้ชั้นฐานของผิว ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และทำให้ผิวดูขาวขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการทำงานของเส้นใยคอลลาเจนที่เข้ามาช่วยเสริมให้ผิวดูนุ่ม เต่งตึง และกระชับขึ้น
9. สารสกัดจากฟักข้าว (Gac Extract)
สารสกัดจากธรรมชาติตัวสุดท้ายที่เราจะมาพูดถึงกันก็คือ ฟักข้าว โดยมีสารสำคัญที่ได้มาจากการสกัดอย่างไลโคปีน (lycopene) และลูทีน ( Lutein ) ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดด ช่วยลดความรุนแรงของรังสี UVA และ UVB ที่ตกลงมากระทบกับผิวได้ ทำให้ผิวทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น ไม่คล้ำเสียง่าย ยิ่งไปกว่านั้นไลโคปีน ยังมีผลในการช่วยลดการทำงานของเม็ดสี เมื่อมีการผลิตเม็ดสีน้อยลงก็จะทำให้ผิวขาว กระจ่างใสขึ้นนั่นเองค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงให้ผิวของคุณแม่ดูขาว กระจ่างใส หมดกังวลเรื่องฝ้า กระ และจุดด่างดำ อีกทั้งยังปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายกับผิวเหมือนอย่างไฮโดรควิโนน อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณแม่ทุกท่านศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมถึงปริมาณการใช้ที่เหมาะสมกับแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าสารสกัดจากธรรมชาติเหล่านี้นอกจากจะปลอดภัยกับผิวของคุณแม่แล้วนั้น ยังปลอดภัยกับลูกน้อยในครรภ์ด้วยเช่นกัน
สุดท้ายนี้ การดูแลผิวหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรละเลย และเพื่อให้ผิวของคุณแม่ยังแลดูขาวกระจ่างใสอยู่เสมอ เราขอแนะนำ Mama’s Choice Gentle Face Wash โฟมล้างหน้าจาก Mama’s Choice ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากข้าวที่ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าของคุณแม่แลดูขาวกระจ่างใสและนุ่มขึ้น ผสานด้วยพลังจากคอลลาเจนสายสั้นและวิตามินบี 3 ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ควบคุมความมัน และคงความชุ่มชื้นไว้ให้กับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายและคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน
อ้างอิง
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
3 วิธีเลือกโฟมล้างหน้าที่แก้ปัญหาผิวคนท้องและปลอดภัยต่อลูกในครรภ์
ทำไมคนท้องถึงมีปัญหาผิว? ครีมทาสำหรับคนท้อง จะช่วยได้หรือไม่?
เจอแล้ว! ครีมคนท้อง ครีมบำรุงผิวที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
Kankanid
Content Manager at Mama's Choice