ผิวแตกลาย ปัญหาความสวยความงาม เรื่องผิวๆ ที่สร้างความกังวลใจให้แม่ท้องไม่น้อย อาการคันตามผิวหนังของแม่ตั้งครรภ์เป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยสาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมนที่แปรปรวน สภาพแวดล้อมและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น หรือได้รับการถ่ายทอดปัญหาด้านผิวหนังทางพันธุกรรม

ปัญหาสภาพผิว นอกจากจะทำให้คุณแม่รำคาญใจเพราะอาการคันแล้ว  ยังทำให้เกิดรอยแตกลายตามร่างกายได้อีกด้วย แต่แม่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะบทความนี้ได้รวบรวมทุกประเด็นผิวแตกลายมาไว้ให้แล้ว ตั้งแต่สาเหตุของผิวแตกลาย และวิธีลดอาการคันผิวหนัง อันเป็นสาเหตุของผิวแตกลายมาฝากคุณแม่แล้ว

มาดูกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

ผิวแตกลาย เกิดขึ้นได้อย่างไร

จริงๆ แล้ว รอยแตกลายตามผิวหนังนั้น ก็คือรอยแตกเล็กๆ ที่เกิดขึ้นบนชั้นผิวหรือเนื้อเยื่อข้างใน ถือเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ ยิ่งหากคนในครอบครัวเคยมีรอยแตกตามผิวได้ง่ายด้วยแล้ว คุณแม่ก็มีโอกาสเกิดผิวแตกลายได้ง่ายเช่นกันค่ะ ทั้งนี้ เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ แม่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และยิ่งขนาดท้องขยายใหญ่ขึ้น ผิวหนังจะยืดขยายออกตามไปด้วย  ดังนั้น ผิวหนังที่เคยเรียบ เนียน เต่งตึง ก็จะขาดความยืดหยุ่น ปรากฏร่องรอยของผิวขึ้นมา โดยเฉพาะคนที่มีสีผิวสว่างจะเห็นรอยแตกลายได้ชัดเจนกว่าคนที่มีผิวสีเข้ม

ผิวแตกลาย เกิดขึ้นช่วงไหนของอายุครรภ์

คุณแม่ที่เพิ่งเริ่มตั้งครรภ์ หรือ คุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งคลอด อาจจะต้องเจอเรื่องกวนใจหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ ปัญหาผิวแตกลาย ที่ทำให้ขาดความมั่นใจตามไปด้วย โดยทั่วไปแล้ว รอยแตกลายมักจะค่อยๆ ปรากฏตามหน้าท้อง หน้าอก แขน ต้นขา หรือผิวหนังส่วนอื่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง  โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 13 – 21 สัปดาห์ รอยแตกลายส่วนใหญ่จะมีสีชมพูอ่อน แดง ม่วง หรือน้ำตาลเข้มในบางคน

ผิวแตกลาย ดูแลอย่างไรได้บ้าง

1. ใช้น้ำเย็นเข้าช่วย

การอาบน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งกร้าน และเกิดอาการคันได้ง่ายขึ้น ดังนั้น คุณแม่จึงควรเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นในช่วงที่ตั้งครรภ์ แต่เปลี่ยนมาอาบน้ำเย็นแทน โดยอาจอาบน้ำที่อุณภูมิปกติ หรืออุณหภูมิห้องแทน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง รวมทั้งลดความเสี่ยงเกิดผิวแห้งกร้าน

2. เลี่ยง / ลดการใช้สาร SLS

SLS หรือ Sodium Lauryl Sulfate หรือที่เรียกกันว่า ‘ผงฟอง’ คือ สารเคมีที่ใช้เป็นส่วนประกอบของสบู่ ยาสระผม และยาสีฟัน สารนี้อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองตามผิวหนัง และซึมเข้ากระเพาะอาหารได้ คุณแม่จึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร SLS  โดยอาจเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ SLS ในปริมาณที่น้อยลง หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฟอง เกิดฟองน้อย และล้างออกได้  เพื่อไม่ให้ผิวหนังถูกสารเคมีทำร้าย รวมทั้งถนอมผิวของคุณแม่ให้มีสุขภาพดี

3. ใช้ครีมป้องกันและรักษา ‘ผิวแตกลาย’ โดยเฉพาะ

วิธีแก้ปัญหาอาการคันและผิวแตกลายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ทำได้ โดยเลือกใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือช่วยลดเลือนรอยแตกลาย วิธีป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือ เริ่มใช้ตั้งแต่รู้ตัวว่ากำลังจะตั้งครรภ์  เพราะคุณแม่ต้องเจอปัญหาผิวพรรณมากมายตลอดที่อุ้มท้องและหลังคลอด ทั้งอาการคันตามผิว และ ปัญหาท้องแตกลาย หากคุณแม่หมั่นดูแลและทาครีมตั้งแต่ช่วงแรกก็จะช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยคุณแม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ลดเลือนรอยแตกลายที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ อย่าง Mama’s Choice Stretch Mark Complete Solution ครีมป้องกันและลดรอยแตกลาย ซึ่งปราศจากสารเคมี SLS, พาราเบน, พทาเลต และช่วยบำรุงผิวคุณแม่ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งอโลเวรา สารสกัดเมล็ดถั่ว เชียบัตเตอร์ และโจโจ้บาออยล์ เพียงคุณแม่ทาบริเวณที่เริ่มมีรอยแตกลายวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ก็จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการผิวแตกลายได้แล้วค่ะ

4. เช็ดท้องด้วยผ้าขนหนูนุ่ม 

เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ควรใช้ผ้าขนหนูนุ่มซับ หรือเช็ดทำความสะอาดท้องและผิวหนังให้แห้งทุกครั้ง การใช้ผ้าขนหนูซับผิวหนังเบาๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังถลอก แห้งเป็นขุย ซึ่งช่วยลดอาการคัน และรอยแตกลายตามท้องและผิวหนัง

5. หยุดเกา เลี่ยงผิวแตกลาย

ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อตั้งครรภ์ และท้องเริ่มโตขึ้น คุณแม่มักเกิดอาการคันตามท้องและผิวหนังทั่วร่างกาย สิ่งสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรทำเลย ก็คือ การเกา เพราะยิ่งเกาผิวมากเท่าไร  อาจทำให้คัน ระคายเคืองมากขึ้น และอาจถึงขั้นรุนแรงเลย ก็คือ ผิวหนังอักเสบ และเกิดแผลได้ในที่สุด  เมื่อรู้สึกคัน แม่ควรใช้วิธีลูบเบาๆ  หรือทาครีม หรือมอยเจอณ์ไรเซอร์บริเวณดังกล่าว เพื่อบรรเทาอาการคัน และป้องกันอาการระคายเคืองผิวค่ะ

6. เลือกเสื้อผ้าเบาบาง ใส่สบาย

คุณแม่ควรเลือกใส่เสื้อผ้าสบายๆ พอดีตัว ไม่รัดรูปเกินไป เนื้อผ้าเบาบาง ไม่อับชื้น หรือดูดความร้อน เพื่อช่วยระบายอากาศ และทำให้รู้สึกสบายตัว ไม่อึดอัดบริเวณท้อง คุณแม่อาจเลือกเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุบางเบา เนื้อผ้านุ่ม และดูดซับเหงื่อได้ง่าย ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองเมื่อเนื้อผ้าสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง 

7. ควบคุมน้ำหนัก

ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจว่า ระหว่าง ‘ควบคุมน้ำหนัก’ กับ ‘ลดน้ำหนัก’ แตกต่างกัน คุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมลูก ไม่ควรลดน้ำหนัก หรือรับประทานอาหารให้น้อยลง แต่สิ่งที่แนะนำให้ทำคือ ดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้นมากเกินไป การควบคุมน้ำหนักตัวทำได้โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบถ้วน และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เน้นผัก ผลไม้ และดื่มน้ำเปล่าที่สะอาด เลี่ยงอาหารรสหวานจัด มันจัด และของทอดต่างๆ เพียงเท่านี้ ก็สามารถควบคุมน้ำหนักไม่ให้พุ่งเกินไปได้แล้วค่ะ

8. กินวิตามินให้เพียงพอ

เพราะการตั้งครรภ์ คือช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการสารอาหารให้เพียงพอ ทั้งในด้านปริมาณ และคุณภาพของสารอาหารที่บริโภคเข้าไป ‘วิตามินซี’ คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง คงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว คุณแม่อาจรับประทานผลไม้มากขึ้น เช่น ส้ม ฝรั่ง สัปปะรด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เป็นต้น หรือจะรับประทานวิตามินซีในรูปของอาหารเสริมก็ได้ แต่ต้องตรวจดูว่ามีส่วนผสมของสารสกัดที่เป็นอันตรายต่อคนท้องหรือไม่ โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง ไม่ควรซื้อวิตามินมารับประทานเอง

เป็นอย่างไรบ้างคะกับความรู้เรื่อง ‘ผิวแตกลาย’ และเทคนิคดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลาย ขอให้คุณแม่สบายใจ ไม่ต้องกังวลนะคะ หมั่นทำเป็นประจำ รับรองว่ารอยแตกลายจะจางลงได้อย่างแน่นอนค่ะ 🙂

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผิวแห้ง คัน แตกลาย ระหว่างตั้งครรภ์ บรรเทาได้ด้วย 6 วิธีนี้

7 ข้อเท็จจริงน่ารู้ ท้องแตกลาย อยู่ตลอดไปจริงหรือไม่?

สารเคมีอันตรายที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้ เลี่ยงอย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย

Kankanid

Content Manager at Mama's Choice