Search

อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร? คุณแม่ตั้งครรภ์มือใหม่จะรับมืออย่างไรดี?

 

คุณแม่ที่กำลังมีอาการแพ้ท้อง แพ้ท้องระยะแรกบางคนอาจกำลังรู้สึกอึดอัดท้อง แน่นหน้าอก ได้กลิ่นอาหารแล้วอาเจียน บางคนก็แพ้หนักมาก แต่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย หรือแพ้ท้องลูกคนแรกอาการไม่เหมือนแพ้ท้องลูกคนที่สองก็ได้ จะเห็นว่า อาการแพ้ท้อง นั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน 

นอกจากสังเกตอาการแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่คุณแม่จำเป็นต้องรู้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับดูแลตัวเองกันด้วย เช่น อาการแพ้ท้องมีลักษณะอย่างไร แพ้ท้องแทนกันได้จริงไหม อาหารที่ควรกินช่วงแพ้ท้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอาการต่างๆ นั่นเอง 

อาการแพ้ท้องเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย ตามมาดูกันดีกว่าว่าคุณแม่ควรรู้อะไรเกี่ยวกับสิงนี้บ้าง

อาการแพ้ท้อง มีอาการอะไรบ้าง

 

อาการแพ้ท้อง เกิดจากอะไร 

การแพ้ท้อง หรือที่ต่างประเทศนิยมเรียกว่า Morning Sickness แม้ชื่อจะบอกว่า Morning แต่นี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบหาสาเหตุที่แน่ชัดของการแพ้ท้อง แต่ถ้ารู้สึกไม่สบายตัว อยากคลื่นไส้อาเจียนล่ะก็ ให้สันนิษฐานว่ามาจาก 5 สาเหตุ ดังนี้

1. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

รกผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ Human Chorionic Gonadotropin (HCG) ขึ้นมา เพื่อช่วยให้ตัวอ่อนฝังตัวในผนังมดลูกได้ดีขึ้นและไปกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งอาจทำให้คุณแม่รู้สึกอ่อนเพลีย เวียนหัว และอยากอาเจียนตลอดเวลา โดยเจ้า HCG นี้จะเพิ่มสูงขึ้นช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ แต่ไม่ต้องกังวลว่า HCG จะอยู่ตลอดไปนะ เพราะหลังจากผ่านไปประมาณ 3 เดือน ระดับฮอร์โมนนี้จะลดลงและอาการแพ้ท้องจะค่อย ๆ ดีขึ้น

2. เกิดการตั้งครรภ์ผิดปกติ

อย่างที่บอกว่าเวลาท้องร่างกายจะผลิตฮอร์โมน HCG ขึ้นมา ถ้าผลิตออกมามากเกินไปจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ผิดปกติได้ เช่น รกผิดปกติ ตั้งครรภ์นอกมดลูก ตั้งครรภ์แฝด ตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก ทำให้อาเจียนบ่อยขึ้นและอาการจะอยู่นานกว่าปกติ
3.ความเครียด

ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ต้องจัดการหลายอย่างในชีวิต ทั้งการเงิน เรื่องงาน เรื่องสุขภาพ เรื่องงานบ้าน อาจทำให้เกิดความเครียดและกังวลจนรู้สึกอยากอาเจียนออกมา

อาการแพ้ท้อง morning sickness อาเจียน

 

อาการแพ้ท้อง มีลักษณะแบบไหนและมีกี่ระดับ

การแพ้ท้องไม่ใช่แค่อยากอาเจียนอย่างเดียว แต่เป็นได้หลายอาการมาก ๆ แถมยังมีหลายระดับอีกด้วย อาการของคนแพ้ท้องมีลักษณะดังนี้

1. คลื่นไส้และเวียนหัว 

อาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์โดยเฉพาะช่วงเช้า หรือคุณแม่บางท่านอาจเกิดทั้งวัน โดยการอาเจียนบ่อยไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง เพราะถ้ายังกินอาหารได้เหมือนเดิมลูกน้อยก็ยังได้รับสารอาหารครบถ้วนอยู่

2. อ่อนเพลีย

จะเป็นอาการที่เกิดตามมาจากอาเจียน เพราะถ้าคุณแม่อาเจียนบ่อยร่างกายจะสูญเสียน้ำ ทำให้รู้สึกหน้ามืดและไม่ค่อยมีแรง 

3. ไวต่อกลิ่น

ฮอร์โมน HCG ทำให้ฮอร์โมนต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้จมูกคุณแม่ไวต่อกลิ่นเป็นพิเศษคือ ได้กลิ่นไว เหม็นง่าย โดยเฉพาะกลิ่นอาหาร กลิ่นน้ำหอม กลิ่นตัว ว่ากันว่าจากกลิ่นสามีที่เคยหอมก็กลายเป็นเหม็นได้เหมือนกัน

4. การรับรสไม่เหมือนเดิม

คุณแม่บางท่านเวลาแพ้ท้องอาจอยากกินเปรี้ยว หรือไม่อยากกินอะไรเลยก็มี เพราะรู้สึกขมในปากอยู่ตลอดเวลา

5. อารมณ์แปรปรวน

เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงทำให้อารมณ์ขึ้นลงง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เช่น อยู่ดี ๆ ก็อยากร้องไห้ อีกแปปเดียวก็อารมณ์ดี แต่อีกสักพักก็กลับมารู้สึกเบื่อ

แพ้ท้อง ไม่สบายตัว คนท้อง ตั้งครรภ์

 

แต่ใช่ว่าอาการเหล่านี้จะเป็นกันทุกคนนะ เพราะการแพ้ท้องแบ่งเป็น 3 ระดับด้วยกัน คือ 

1. อาการแพ้ท้อง น้อยหรือไม่แพ้เลย 

เวียนหัว หน้ามืด มีอาการคลื่นไส้อยากอาเจียนแต่ไม่บ่อยและสามารถทานอาหารได้อยู่ ที่ไม่แพ้ท้องเลยเป็นเพราะร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนไม่เท่ากัน นับว่าคุณแม่กลุ่มนี้โชคดีมาก ๆ เพราะจะได้ดูแลร่างกายตัวเองได้เต็มที่ ทานของมีประโยชน์ได้เยอะ และไม่ต้องทรมานกับอาการแบบนี้อีกต่อไป

2. อาการแพ้ท้อง ปานกลาง

อาเจียนบ่อยครั้ง จมูกไวต่อกลิ่น ทำให้ความอยากอาหารลดลงและทานอาหารได้น้อยกว่าปกติ ทำให้บางครั้งปัสสาวะเป็นสีเหลืองเนื่องจากร่างกายขาดน้ำ อาการนี้แก้ได้ด้วยการจิบน้ำระหว่างวัน หรือถ้ายังไม่หายแนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับน้ำเกลือ อาการปัสสาวะเหลืองจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

3. อาการแพ้ท้อง หนัก

รู้สึกอยากอาเจียนตลอดเวลาจนไม่สามารถทานอาหารได้ เวียนหัว หน้ามืดและร่างกายทรุดโทรม กรณีนี้คุณแม่ต้องไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยคุณหมอจะจ่ายยาตามอาการและแนะนำการปรับพฤติกรรมต่างๆ 

 

อาการ ที่ต้องเฝ้าระวังเมื่อ แพ้ท้อง 

ขอบอกว่าไม่ใช่ไม่มีอาการแพ้ท้องแล้วจะปลอดภัยเสมอไปนะ คุณแม่ต้องหมั่นสังเกตร่างกายร่วมด้วยเสมอ เมื่อพบอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่ออัลตร้าซาวด์และวินิจฉัยทันที มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรที่ต้องเฝ้าระวังยามแพ้ท้องกันบ้าง

1. มีเลือดออกทางช่องคลอด

การมีเลือดออกจากช่องคลอดในระหว่างตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องปกติ โดยส่วนใหญ่มักพบเลือดออก 2 ช่วงด้วยกันคือ ช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์และครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ ถ้าพบว่ามีเลือดออกต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุว่าอันตรายหรือเสี่ยงแท้งมากน้อยแค่ไหน

2. ปวดหน่วงท้องน้อยอย่างรุนแรง

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มาเดือนเศษจะมีอาการปวดหน่วงท้องไม่เกิน 5 ครั้งต่อวัน แต่ถ้าเกิน 10 ครั้งขึ้นไปหรือปวดติดกันต่อเนื่องหลายชั่วโมง อาจเป็นสาเหตุของการแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด

3. บวมบริเวณขาหรือข้อเท้า

ช่วง 3-4 เดือนก่อนคลอด ถ้ากดบริเวณขาหรือเท้าแล้วบุ๋มลึกกว่าปกติอาจแสดงถึงภาวะแทรกซ้อนผิดปกติ เช่น ครรภ์เป็นพิษหรือโรคไตได้ 

แพ้ท้องแทน สามี พ่อ

 

อาการแพ้ท้อง แทนกันมีจริงไหม ? 

คุณแม่น่าจะเคยได้ยินมาบ้างว่า คุณพ่อแพ้ท้องแทนภรรยามีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือมโนกันแน่ ตามมาไขข้อข้องใจไปด้วยกันเลย

อาการแพ้ท้องแทนกันเป็นอาการทางจิตวิทยาที่เรียกว่า โคเวด ซินโดรม (Couvade Syndrome) สาเหตุเกิดจากคุณพ่อวิตกกังวล ตื่นเต้น ห่วงใยภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีอยู่ในคุณพ่อเพิ่มสูงขึ้นจนเกิดอาการแพ้ท้องเหมือนภรรยานั่นเอง 

พ่อแต่ละคนจะแพ้ท้องไม่เท่ากัน บางคนอาจมีอาการเล็กน้อย เช่น เวียนหัว อยากอาเจียน อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวนง่าย แต่ถ้าแพ้หนักมากจะพบอาการเป็นตะคริว อยากกินของแปลก ปวดหลัง และน้ำหนักขึ้นจากความเครียดร่วมด้วย ระยะเวลาที่เป็นจะเริ่มเป็นตั้งแต่รู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์และจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 3-5 เดือน แต่ถ้าแพ้หนักมากก็อาจจะเป็นจนกว่าภรรยาจะคลอดลูกเลยทีเดียว

แนะนำให้คุณพ่อจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย หากิจกรรมอื่น ๆ ทำ เพื่อให้สมองผ่อนคลายไม่ไปโฟกัสกับการตั้งครรภ์ของภรรยามากเกินไปนั่นเอง 

อาการแพ้ท้อง แพ้ท้อง คนท้อง แม่ตั้งครรภ์

เคล็ดลับรับมือกับ อาการแพ้ท้อง

เชื่อว่าเวลาแพ้ท้องคุณแม่ต้องรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวหรืออ่อนเพลียตลอดเวลา ดังนั้นคุณแม่ควรเรียนรู้เทคนิคการรับมือกับอาการเหล่านี้เอาไว้ เพื่อช่วยลดความทรมานจากอาการแพ้ท้อง

แก้ อาการแพ้ท้อง ตั้งครรภ์ แม่ท้อง แม่ตั้งครรภ์ คนท้อง

1. กินน้อยๆ แต่กินให้บ่อย 

เวลาตั้งครรภ์ในท้องจะมีทารกอยู่ด้วย ถ้าคุณแม่กินอาหารเยอะเกินไปอาจจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ถ้ากินน้อยเกินก็รู้สึกอยากอาเจียนอีก แนะนำว่าให้กินน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ มากกว่า เพื่อให้กระเพาะอาหารได้ทำงานแถมลูกน้อยจะได้อิ่มไปด้วย

2. ตื่นเช้าแล้วต้องรีบหาอะไรทานทันที

จากข้อที่แล้ว ถ้าท้องว่างจะทำให้รู้สึกพะอืดพะอม เพราะฉะนั้นพอตื่นเช้ามาคุณแม่ควรจะหาอะไรรองท้องก่อน เช่น น้ำขิงร้อน ๆ ขนมปังธัญพืช หรือบิสกิต 

3. ไม่กินของที่แพ้

การฝืนกินอาหารที่มีประโยชน์แต่แพ้ก็ถือว่าเปล่าประโยชน์อยู่ดี เพราะจะทำให้รู้สึกอยากอาเจียน แถมอาหารก็ส่งไปไม่ถึงลูกน้อยอีกต่างหาก ให้คุณแม่ดูแลอาหารการกินของตัวเองด้วยโดยที่ไม่ต้องไปกลัวว่าลูกจะได้สารอาหารไม่ครบ

4. หลีกเลี่ยงกลิ่นฉุน

เช่น กลิ่นน้ำหอม กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มแรง ๆ โรออนระงับกลิ่น สเปรย์ปรับอากาศ

5. ดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ 

คุณแม่ที่รู้สึกขมคล้ายกับมีโลหะอยู่ในปาก แนะนำให้แปรงฟันให้สะอาดรวมถึงใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ร่วมด้วยจะช่วยให้รู้สึกขมน้อยลง

6. เลี่ยงอากาศร้อน 

อากาศร้อนจะทำให้เหงื่อออกง่ายหรือบางทีก็พาลทำให้หงุดหงิดอีก ซึ่งไม่ดีต่อคนท้องเพราะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เวียนหัว แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องออกไปข้างนอกให้คุณแม่หาร่มไม้หรือเข้าห้องแอร์ไปพักก่อน หรือถ้ารู้สึกเหนื่อยอาจจะหาน้ำหวาน ผลไม้แช่เย็นมากินให้รู้สึกชื่นใจก็ได้

7. พักผ่อนให้เพียงพอ 

คนท้องจะเหนื่อยง่ายกว่าคนทั่วไป คุณแม่จึงไม่ควรนอนดึกเกินไปและต้องนอนให้มีคุณภาพด้วย ตื่นมาจะได้สดชื่น ไม่อ่อนเพลีย

8. หากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบทำ

อย่าไปโฟกัสกับอาการแพ้ท้องมากนัก เพราะยิ่งเครียดกับมันอาการก็จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ถ้าอยากลดความเครียดลงให้หากิจกรรมหรืองานอดิเรกง่าย ๆ ทำ เช่น ดูซีรีส์ที่ชอบ รดน้ำต้นไม้ วาดรูป อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ เป็นต้น

9. ออกกำลังกาย

ขยับแข้งขยับขา ยืดเส้นยืดสาย เช่น การแกว่งแขนไปมา ยกแขนขึ้นลง เดินรอบบ้าน หรือถ้ามีเวลาจะออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ สูดอากาศบริสุทธิ์ก็ได้เช่นกัน จะช่วยให้จิตใจเบิกบานและรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าการอยู่แต่ในบ้าน

10. พบแพทย์

กรณีที่คุณแม่แพ้ท้องมากๆ อย่านิ่งดูดาย ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที เพราะอาจเป็นอันตรายต่อตัวเองและลูกในท้องได้

 

อาหารช่วยลด อาการแพ้ท้อง

ช่วงแพ้ท้องจะทานอะไรก็ลำบากไปหมด อาหารบางอย่างที่ชอบกลายเป็นไม่ชอบ เหม็นกลิ่นอาหาร บางทีก็เกิดอยากกินอาหารแปลก ๆ ขึ้นมา หรือบางทีก็ไม่อยากอาหาร เรียกว่าการกินเป็นปัญหาหลักของคนแพ้ท้องเลยล่ะ วันนี้เลยเอาอาหารที่จะช่วยลดอาการแพ้ท้องมาฝากกัน 

อาหาร ลด อาการแพ้ท้อง ตั้งครรภ์ แม่ท้อง แม่ตั้งครรภ์ คนท้อง

1. ขิง

เป็นอาหารที่มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบรรเทาการไอ ไข้หวัด ขับลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ดื่มแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น ซึ่งคุณแม่สามารถเลือกได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น ทานขิงจริง ๆ หรือดื่มน้ำขิงร้อน น้ำขิงเย็น น้ำขิงโซดาก็ได้เช่นกัน แต่ขิงเป็นอาหารที่ให้ความร้อน ไม่ควรทานมากเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ 

2. ขนมปังธัญพืชหรือขนมปังกรอบ เช่น คุ้กกี้ บิสกิต 

เวลาแพ้ท้องคุณแม่บางท่านจะทานข้าวได้แค่ไม่กี่คำเท่านั้นหรือทานไม่ได้เลย โดยเฉพาะช่วงเช้าที่ท้องว่างอาการอยากอาเจียนจะยิ่งหนัก ดังนั้นให้คุณแม่เตรียมวางขนมปังธัญพืชหรือบิสกิตไว้ข้างเตียงเลย ให้ตื่นแล้วสามารถได้หยิบกินได้ทันทีก็จะช่วยลดอาการอยากอาเจียนไปได้บ้าง 

3. โยเกิร์ต

ในโยเกิร์ตอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งจุลินทรีย์ โปรตีน วิตามินบี แคลเซียม โพแทสเซียม และโพรไบโอติก ทานง่ายแถมดีต่อร่างกายและผิวพรรณมาก ๆ 

4. อัลมอนด์

อัลมอนด์ช่วยเพิ่มภูมิคุ้นกันในร่างกายและมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีโปรตีนสูงที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีไฟเบอร์ รวมไปถึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย สามารถใช้ทานเป็นมื้อเล็ก ๆ ระหว่างวันได้ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายและลูกน้อยด้วย 

5. กล้วย

กล้วยเป็นผลไม้ที่ทานง่ายและไม่ต้องเตรียมอะไรยุ่งยาก มีวิตามินมากมาย ทานแล้วรู้สึกอิ่ม ยิ่งทานคู่กับโยเกิร์ตหรืออัลมอนด์ก็ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก 

6. น้ำมะพร้าว

ในน้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยกรดลอริก (Lauric Acid) ที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ต้านไวรัส เชื้อหวัดและมีสารอาหารครบถ้วนเช่น โปรตีน วิตามิน โพแทสเซียม แคลเซียม ไฟเบอร์ นอกจากนั้นดื่มแล้วยังให้ความรู้สึกสดชื่น เรียกว่ามีประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและผิวพรรณเลยทีเดียว

7. เมล็ดทานตะวัน

ในเมล็ดทานตะวันมีวิตามินบี 6 สูง ซึ่งช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมอง คุณแม่สามารถใช้กินเป็นของว่างระหว่างวันได้ง่าย ๆ 

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับอาการแพ้ท้อง ทั้งสำหรับคุณแม่มือใหม่หรือคุณแม่ที่เคยมีน้องมาแล้ว เพราะการแพ้ท้องแต่ละครั้งอาการอาจไม่เหมือนกัน ซึ่งคุณแม่สามารถเอาไปปรับใช้กับตัวเองได้เลย เพื่อสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดี ทั้งของคุณแม่และลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ด้วย 


อ้างอิง
https://bit.ly/3pTp6Ck
https://bit.ly/2S3o9eg
https://bit.ly/3xn2c8T
https://bit.ly/35q9bSG
https://bit.ly/3pUzs4Z
https://bit.ly/3gF9QVz
https://bit.ly/2S3o9eg
https://bit.ly/3vnlaL3
https://bit.ly/3zvlIlh
https://bit.ly/3wvcyTY
https://bit.ly/3gQWiX9
https://bit.ly/3pUBsde 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อาการ แพ้ท้อง น้ำลายไหลมากผิดปกติ ป้องกันได้ด้วย 4 วิธีนี้

4 อาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์ ต้องรับมืออย่างไรถึงจะดีขึ้น?

คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง? เปิดลิสต์อาหาร 10 ชนิดที่แม่ท้องต้องเลี่ยง


อาการแพ้ท้อง

Author Kankanid

Kankanid

Content Manager at Mama's Choice

COMMENTS

0 Comments
Leave a comment

Your Cart (0)

Close

เพิ่ม ฿300.00 เพื่อรับสิทธิในการจัดส่งฟรี!

Mini Cart

ตะกร้าสินค้าของคุณว่างเปล่า

Shop now

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า