Search

อาการแพ้ท้อง น้ำลายไหลมากผิดปกติ ป้องกันได้ด้วย 4 วิธีนี้

คุณเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มี อาการแพ้ท้อง น้ำลายเปรี้ยว น้ำลายไหลมากผิดปกติ น้ำลายเต็มปาก ต้องบ้วนทิ้งบ่อยๆ จนทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ใช่หรือไม่? ระวัง! คุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติ (Hypersalivation)

ภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติเกิดจากร่างกายผลิตน้ำลายออกมามากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีโอกาสเกิดภาวะนี้มากกว่าคนทั่วไปเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่รุนแรงในระหว่างตั้งครรภ์ อาการนี้เรียกอีกอย่างว่า Ptyalism gravidarum คือ การผลิตน้ำลายออกมามากกว่าปกติในช่วงการตั้งครรภ์

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะคะแม่ๆ วันนี้ Mama’s Choice มีสาเหตุ รวมถึงวิธีป้องกันและแก้ไขอาการน้ำลายไหลผิดปกติช่วงตั้งครรภ์มาฝากค่ะ

 

อาการแพ้ท้อง น้ำลายไหลมากผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ เกิดจากอะไร

อาการ แพ้ท้อง น้ำลายไหล

โดยปกติ ต่อมน้ำลายในปากจะผลิตน้ำลายออกมาประมาณ 0.75 – 1.5 ลิตรต่อวัน เพื่อให้เกิดความชุ่มชื่นในช่องปาก ช่วยในการรับรส ย่อยอาหาร ป้องกันฟันผุ และฆ่าเชื้อโรคในช่องปาก แต่ถ้าคุณมีภาวะน้ำลายไหลผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ ต่อมน้ำลายก็จะผลิตน้ำลายออกมามากเกินความจำเป็น

ภาวะที่มีน้ำลายท่วมปากนั้นทำให้เกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น แม่ตั้งครรภ์ที่มี อาการแพ้ท้อง หรือ คลื่นไส้ระหว่างตั้งครรภ์ อาการนี้อาจทำให้เกิดการอาเจียนอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติในหญิงตั้งครรภ์ มีดังนี้

น้ำลายไหล น้ำลายเยอะ น้ำลายเปรี้ยว ตั้งครรภ์ ท้อง แพ้ท้อง

 

  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ไม่เพียงส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน หรือที่แย่กว่านั้นคือ ‘การแพ้ท้องอย่างรุนแรง’ (hyperemesis gravidarum) แต่ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดการผลิตน้ำลายในปากมากขึ้นด้วย เราจึงอาจพบเห็นแม่ตั้งครรภ์ที่มี อาการแพ้ท้องร่วมกับภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติได้โดยทั่วไป
  • อาการ คลื่นไส้และอาเจียน เมื่อแม่ตั้งครรภ์ จะทำให้ความอยากอาหารลดลง แม่บางคนจึงพยายามหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารหรือดื่มน้ำ  ประกอบกับกรดในกระเพาะอาหารที่ออกมาพร้อมกับการอาเจียน ซึ่งเหล่านี้กลายมาเป็นสาเหตุของการเกิดกรดสะสมอยู่ในช่องปาก และตามมาด้วยภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์
  • ปัญหาฟันผุ ซึ่งโดยทั่วไปจะทำให้สภาพปากเป็นกรดและเกิดการผลิตน้ำลายมากขึ้น
  • เชื้อราและแผล หรือการอักเสบในช่องปาก การติดเชื้อในช่องปาก ฝี หนองตามเนื้อเยื่อช่องปากและลำคอ รวมถึงทอนซิลอักเสบ หากเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น ค่าความเป็นกรด-ด่างในช่องปากย่อมไม่ปกติ และภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติก็จะตามมาอย่างแน่นอน
  • โรคกรดไหลย้อน ในระหว่างการตั้งครรภ์ การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารอ่อนแรงลง จึงมีความเสี่ยงสูงที่กรดจากกระเพาะอาหารจะไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนที่ลิ้นปี่หรือกลางหน้าอกแล้ว อาการของโรคกรดไหลย้อนยังทำให้เกิดกรดสะสมในช่องปาก ซึ่งทำให้เกิดภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติตามมาด้วย
  • การสัมผัสกับสารพิษ โดยทั่วไปแล้วสารพิษจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ  เช่น สารปรอท สารหนู ออร์แกโนฟอสเฟต ควันพิษ หรือ สารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟัน ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะเข้ามาขัดขวางประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะต่างๆในช่องปาก และทำให้เกิดการผลิตน้ำลายเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ ในบางกรณี อาจพบโรคตับ ตับอ่อนอักเสบ และโรควิตกกังวล ในแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติได้  แม่ตั้งครรภ์จึงควรได้รับการตรวจสุขภาพโดยละเอียดในขั้นตอนการฝากครรภ์

 

 

อาการแพ้ท้อง น้ำลายไหลมากผิดปกติ เป็นอันตราย จริงหรือไม่

อาการ แพ้ท้อง น้ำลายไหล

 

แม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง มักจะพบภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติร่วมด้วยเป็นเรื่องปกติ บางคนมีอาการแพ้ท้องรุนแรงมากถึงขั้นกลืนน้ำลายยังทำไม่ได้ เพราะจะชวนให้เกิดความพะอืดพะอมและอยากอาเจียนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม อาการน้ำลายไหลมากที่มาพร้อมกับอาการแพ้ท้องก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อแม่ตั้งครรภ์ ยกเว้นในบางกรณีที่แม่ตั้งครรภ์มีอาการกรดไหลย้อน หรือปัญหาในช่องปาก เช่น ฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์

แม้ว่าภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติจะไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ แต่แน่นอนว่าปัญหานี้ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการพยายามรักษาความสะอาดและสุขภาพช่องปากที่จะทำได้ยากขึ้น และอาจนำมาซึ่งปัญหา กลิ่นปาก ร่างกายขาดน้ำ และริมฝีปากแห้ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องใส่ใจคือ ภาวะนี้จะส่งผลให้ความอยากอาหารของแม่ตั้งครรภ์ลดลง อันเนื่องมาจากรสชาติขมในปาก ร่วมกับอาการพะอืดพะอม อยากอาเจียน ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นช่วงตื่นนอนตอนเช้า และทำให้แม่ตั้งครรภ์บางคนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ดังนั้น หากแม่ตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง จนเกิดภาวะขาดน้ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ สมดุลเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ จนรู้สึกอ่อนเพลียมาก ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยด่วน

 

 

อาการแพ้ท้อง น้ำลายไหลมากผิดปกติ เกิดขึ้นเมื่อไหร่

ภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติ เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นร่วมกับอาการแพ้ท้องระหว่างการตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสแรก หรือช่วงที่เพิ่งมี อาการท้องอ่อนๆ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนในร่างกายอย่างรวดเร็ว  อย่างไรก็ตาม อาการแพ้ท้องและภาวะนี้เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก และมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจค่อนข้างมาก ดังนั้น คุณแม่ต้องพยายามไม่กังวลมากเกินไป เพราะอาการแพ้ท้องต่างๆ จะดีขึ้นตามกาลเวลา โดยจะเริ่มหายไปตอนอายุครรภ์ครบ 14 สัปดาห์เป็นต้นไป  ทั้งนี้ การเกิดภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติไปจนถึงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้ายังคงมีอาการต่อเนื่องหลังจากคลอดบุตรแล้วควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำลายมากขึ้น และบรรเทาความรุนแรงของอาการนี้ลง คุณแม่อาจปฏิบัติตาม 4 วิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

 

 

4 วิธีในการเอาชนะภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์

อาการแพ้ท้องที่ทำให้เกิดภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และสามารถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยวิธีธรรมชาติหลายวิธี ซึ่ง 4 วิธีง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถทำได้เอง และเริ่มทำได้ทันที ได้แก่ 

น้ำลายไหล น้ำลายเยอะ น้ำลายเปรี้ยว ตั้งครรภ์ ท้อง แพ้ท้อง

 

1. หมั่นแปรงฟันและใช้น้ำยาบ้วนปาก

สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ได้แนะนำให้แม่ตั้งครรภ์ดูแลสุขภาพเหงือกและฟันโดยการแปรงฟันและบ้วนปากอย่างถูกวิธี เพราะสุขภาพในช่องปากของแม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลูกน้อยในครรภ์ โดยมีการศึกษาพบว่าปัญหาสุขภาพช่องปากบางชนิดส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ เช่น โรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ นอกจากนี้ การปล่อยให้มีแบคทีเรียในช่องปากจำนวนมากอาจส่งผลให้เกิดภาวะฟันผุในทารกได้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน อาจยังไม่เพียงพอต่อการทำความสะอาดช่องปากของแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจยังมีแบคทีเรียหลงเหลืออยู่ตามบริเวณที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง เช่น ขอบเหงือก กระพุ้งแก้ม ลิ้น ซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานอาหารจุบจิบ และ อาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อยๆ ของแม่  ซึ่งการใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อกำจัดเศษอาหารและลดปริมาณน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารที่ตกค้างในปากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียและป้องกันฟันผุได้มากขึ้น

แต่ทั้งนี้ แม่ท้องก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ และปลอดภัยต่อลูกน้อยในครรภ์ เช่น เซตดูแลช่องปากของ Mama’s Choice ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถช่วยให้แม่ตั้งครรภ์ดูแลสุขภาพปากและฟันได้อย่างหมดกังวล เพราะเป็นสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากฟลูออไรด์ และมีส่วนช่วยในการปรับค่าความเป็นกรด-ด่างในช่องปากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วยค่ะ

น้ำยาบ้วนปากคนท้อง Mama's Choice

ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 79.- จากปกติ 99.- 

 

2. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท

เนื่องจากอาหารรสจัดหรืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมากๆ จะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลายในปากให้ผลิตน้ำลายออกมามากขึ้น และนอกจากนั้น อาหารประเภทของหวานและขนมจำพวกแป้ง น้ำอัดลม เครื่องดื่มรสหวาน รวมถึงหมากฝรั่งที่มีน้ำตาลสูง จะส่งผลให้เกิดกรดในช่องปาก และนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพฟัน  ดังนั้น คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านี้หากต้องการลดปริมาณการไหลของน้ำลายในปากค่ะ

ทั้งนี้ ผลไม้เปรี้ยวยังเต็มไปด้วยกรดอินทรีย์ (organic acid) เช่น กรดซิตริก (citric acid) กรดมาลิก (malic acid) และ กรดทาร์ทาริก (tartaric acid) ซึ่งหากคุณแม่ท้องรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวขณะท้องว่าง อาจมีอาการไม่สบายท้อง คลื่นไส้ หรืออยากอาเจียนมากขึ้นได้ด้วยนะคะ

3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

แม่ตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน ซึ่งปริมาณน้ำเปล่าที่คนท้องควรได้รับ คือประมาณ 1.5 ลิตร หรือ 7- 8 แก้วต่อวัน การดื่มน้ำที่มากเพียงพอจะทำให้ภายในช่องปากของแม่มีค่าความเป็นกรด-ด่างที่เหมาะสม ซึ่งอย่างน้อยจะช่วยควบคุมการผลิตน้ำลายส่วนเกินได้บ้าง ส่วนคุณแม่คนใดที่มีอาการแพ้ท้องหนักหรือรุนแรงจนดื่มน้ำได้ยาก ลองเปลี่ยนจากการดื่มน้ำครั้งละมากๆ เป็นการจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดทั้งวันแทน หรือสลับกับการดื่มน้ำสมุนไพร เช่น น้ำขิง น้ำตะไคร้ ก็จะสามารถช่วยลดอาการพะอืดพะอมและรู้สึกสดชื่นมากขึ้นได้ค่ะ

4. พกพากระดาษชำระไปทุกที่

แม่ตั้งครรภ์ที่มีภาวะน้ำลายไหลมากผิดปกติจะรู้สึกอยากบ้วนน้ำลายทิ้งบ่อยครั้ง ดังนั้น คุณแม่ควรพกกระดาษชำระติดตัวไว้ เมื่อมีน้ำลายสะสมในปากมากๆ ก็สามารถบ้วนทิ้งได้ทันที ไม่ควรฝืนกลืนหรือเก็บน้ำลายไว้ เพราะจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้มากขึ้น

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 วิธีจัดการกับปัญหา กลิ่นปาก ของ คนท้อง

สาร SLS อันตรายสำหรับ คนท้อง และ ทารก จริงหรือไม่?

สารเคมีอันตรายที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้ เลี่ยงอย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย

 

ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 159.- จากปกติ 228.- | จัดส่งฟรี! เมื่อซื้อครบ 300.-

Oral Care Set

Author Kankanid

Kankanid

Content Manager at Mama's Choice

COMMENTS

0 Comments
Leave a comment

Your Cart (0)

Close

เพิ่ม ฿300.00 เพื่อรับสิทธิในการจัดส่งฟรี!

Mini Cart

ตะกร้าสินค้าของคุณว่างเปล่า

Shop now

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า