เมื่อตัดสินเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้ว คุณแม่ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มทำสต็อกนมแม่ให้ลูกน้อยได้มีกินนานๆ หรือวางแผนไว้สำหรับเวลาที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงานนอกบ้าน ลูกน้อยจะได้มีนมแม่กินต่อไป ว่าแต่คุณแม่จะเก็บรักษาสต็อกนมแม่อย่างไรให้อยู่ได้นาน น้ำนมยังมีสารอาหารสำคัญเหมือนเดิม น้ำนมไม่เหม็นหืน ลูกน้อยกินแล้วไม่ท้องเสีย ในบทความนี้ Mama’s Choice ได้รวบรวม วิธีเก็บนมแม่ อย่างถูกต้องมาฝากกันค่ะ 🙂
เก็บนมแม่ได้นานแค่ไหน?
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) มีคำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลาที่สามารถเก็บนมแม่แต่ละแบบดังนี้
วิธีเก็บนมแม่ อย่างปลอดภัย
การเก็บรักษานมแม่อย่างปลอดภัยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
1. ก่อนปั๊มนม
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่น้อยกว่า 60%
- ตรวจสอบปั๊มนมให้แน่ใจว่าสะอาดก่อนการใช้งาน หากใช้ร่วมกับผู้อื่นให้ทำความสะอาดภายนอกปั๊มและบริเวณใกล้เคียงด้วยกระดาษเช็ดฆ่าเชื้อ
- คุณแม่เริ่มปั๊มนมด้วยมือหรือเครื่องปั๊มตามสะดวก
2. การบรรจุใส่ถุงหรือภาชนะ
- ใช้ถุงเก็บนมแม่ หรือภาชนะเกรดที่ใช้กับอาหารและสะอาด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาชนะทำจากแก้วหรือพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท หลีกเลี่ยงการใช้ขวดที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลหมายเลข 7
- ห้ามเก็บน้ำนมแม่ในขวดแบบใช้แล้วทิ้งหรือถุงพลาสติกที่ไม่ได้มีไว้สำหรับเก็บนมแม่
3. การเก็บรักษาในอุณหภูมิต่างๆ
- ที่อุณหภูมิห้อง สามารถเก็บได้ถึง 4 ชั่วโมง
- ในตู้เย็น เก็บได้ถึง 4 วัน
- ในช่องแข็ง เก็บภายใน 6 เดือน คุณภาพดีที่สุด ถ้ามากกว่า 6 เดือนแต่ไม่เกิน 12 เดือน คุณภาพยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ หากเกินกว่านั้น ทาง CDC แนะนำว่าจะไม่ได้คุณภาพที่ดีที่สุด ส่วนคุณหมอสุธีรา แนะนำว่า หากเกิน 1 ปี คุณแม่ต้องชิมทุกถุงก่อนให้ลูกทาน ถ้าไม่เปรี้ยวกินได้ค่ะ
เทคนิคการเก็บรักษานมแม่
- เขียนฉลากติดลงบนถุงนมให้ชัดเจนว่าปั๊มเมื่อไหร่
- ไม่เก็บถุงนมแม่ที่ฝาตู้เย็นหรือฝาตู้แช่แข็ง เนื่องจากจะทำให้อุณหภูมิของนมแม่เปลี่ยนไปเวลาเปิดปิดตู้ทำให้ไม่สามารถเก็บได้นานตามที่แนะนำข้างต้น
- ถ้าคุณไม่มีแผนจะใช้นมที่คุณปั๊มภายใน 4 วัน ควรจะแช่แข็งทันที เพื่อรักษาคุณภาพของนมแม่
- ในการแช่แข็งนมแม่ มีเทคนิคดังนี้
- ให้แบ่งเป็นถุงเล็กๆ พอทานในแต่ละมื้อ หรือประมาณ 2-4 ออนซ์ เพื่อไม่ต้องให้นมเหลือ
- ควรบรรจุนมให้มีระยะห่างจากปากถุงประมาณ 1 นิ้ว เพราะนมจะขยายตัวเมื่อแข็ง
- ควรรีดอากาศออกจากถุงให้มากที่สุดก่อนแช่แข็ง เพื่อไม่ให้นมเหม็นหืนมากนัก
- ถ้าจะต้องนำนมแม่ไปให้ลูกน้อยใช้ที่โรงเรียนหรือสถานดูแลเด็ก ควรระบุชื่อลูกน้อยให้ชัดเจน
- นมแม่ที่ปั๊มออกมาสามารถเก็บในถุงเก็บความเย็นได้ถึง 24 ชั่วโมงระหว่างที่คุณต้องเดินทาง และเมื่อถึงที่หมาย ต้องนำนมออกมาเข้าตู้เย็นหรือตู้แช่แข็งในทันที
- มีบางกรณีที่ตู้เย็นอาจปิดไม่สนิท หรือ ไฟดับ ทำให้มีปัญหานมละลาย แต่ยังมีความเย็นอยู่ กรณีนี้อายุของนมที่เก็บจะไม่นานเท่าเดิม หากจะใช้นม จะต้องทำการชิมทุกครั้งว่าเปรี้ยวหรือไม่ ถ้าเปรี้ยวหรือไม่แน่ใจ ก็ไม่ควรนำมาให้ลูกกิน
ทั้งนี้ หากคุณแม่มีความจำเป็นต้องพาลูกน้อยไปทำธุระนอกบ้าน หรืออยากพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา และต้องการพกพานมแม่ไปด้วย เราขอแนะนำ Mama’s Choice Sling Cooler Bag กระเป๋าเก็บนมแม่ซึ่งสามารถรักษาอุณหภูมิได้นานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง และสามารถใส่ขวดนมไซส์เล็กได้ถึง 9 ขวด
นอกจากนี้ Mama’s Choice Sling Cooler Bag ยังมีช่องสำหรับใส่เครื่องปั๊มนมด้วยนะคะ คุณแม่จะใช้เป็นกระเป๋าสำหรับพกติดตัวไปปั๊มนมระหว่างที่ไปทำงานหรือไปทำธุระได้ เพราะสามารถรักษาอุณหภูมิของน้ำนมแม่เอาไว้ได้ระหว่างที่คุณแม่ยังอยู่นอกบ้าน เพื่อไม่ให้น้ำนมแม่บูดเน่าหรือสูญเสียคุณค่าทางสารอาหารไปค่ะ
วิธีอุ่นนมแม่อย่างปลอดภัย
- นำนมแม่ถุงที่เก่าที่สุดมาละลายก่อนเสมอ ต้องพึงระลึกว่าเข้าก่อนออกก่อน เนื่องจากคุณภาพของนมแม่จะลดลงตามกาลเวลา
- วิธีในการนำนมแม่มาละลาย ดังนี้
- นำจากช่องแช่แข็งมาไว้ในช่องแช่เย็นก่อน 1 คืนล่วงหน้า
- นำมาละลายในภาชนะที่มีน้ำอุ่น
- เปิดน้ำอุ่นผ่านนมแม่เพื่อละลาย
- ห้าม ละลายนมแม่โดยใช้ไมโครเวฟ เนื่องจากไมโครเวฟจะทำลายสารอาหารในนมแม่และจะร้อนเกินสำหรับเด็กทารก
- ถ้าคุณละลายนมในตู้เย็นต้องให้ทารกทานภายใน 24 ชั่วโมง โดยนับจากจุดที่นมละลายอย่างสมบูรณ์ ไม่ได้นับจากเวลาที่ย้ายจากตู้แช่แข็ง
- ถ้านมแม่ถูกเอาออกมาวางในอุณหภูมิห้อง ต้องใช้ภายใน 2 ชั่วโมง
- ห้าม นำนมแม่ที่ละลายแล้วกลับเข้าช่องแช่แข็ง
วิธีป้อนนมแม่
- ทารกสามารถทานนมแม่ที่อุณหภูมิห้องหรือเย็นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนมอุ่น
- ถ้าต้องการให้นมอุ่น มีคำแนะนำดังนี้
- ตรวจสอบว่าภาชนะที่ใส่นมแม่ปิดสนิท ไม่มีรอยรั่ว
- ใส่ภาชนะที่มีนมแม่ลงในอ่างน้ำอุ่นหรือถือไว้ให้น้ำอุ่นไหลผ่าน
- ทดสอบอุณหภูมิของนมแม่ก่อนป้อนทารก โดยการหยดลงบนข้อมือ 2-3 หยด
- ห้ามนำนมแม่ไปให้ความร้อนบนเตาหรือไมโครเวฟ
- กรณีที่ไขมันแยกจากนมแม่ คุณแม่หรือผู้ดูแลสามารถเขย่าขวดนมวนเบาๆ เพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ถ้าลูกน้อยทานนมไม่หมด สามารถเก็บได้อีก 2 ชั่วโมงหลังจากทานเสร็จ แต่ถ้าเกิน 2 ชั่วโมงแล้วต้องทิ้งเท่านั้น
แม้จะมีงานวิจัยที่ชี้ว่า นมแม่ที่เก็บไว้ในตู้เย็นมีคุณสมบัติด้อยกว่านมแม่สดใหม่จากเต้า แต่นมแม่ก็ยังเปี่ยมคุณค่าสารอาหารและมีประโยชน์มากกว่านมผงที่ชงใหม่ๆ เพราะยังคงมีเซลเม็ดเลือดขาว สารภูมิคุ้มกัน เอ็นไซม์ ฮอร์โมน สารต้านมะเร็ง ซึ่งยังทำงานได้เป็นอย่างดี และหาไม่ได้ในนมผงทุกยี่ห้อ Mama’s Choice ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่มือใหม่มีความสุข สนุกสนานไปกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อพัฒนาการที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจของลูกน้อยนะคะ 🙂
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีเลือกเครื่องปั๊มนม แบบไหนปั๊มเกลี้ยงเต้า น้ำนมไหลดี ไม่เจ็บหัวนม มาดูกัน!
วิธีปั๊มนม เทคนิคปั๊มนม รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับการปั๊มนมที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้
7 เทคนิคเพิ่มน้ำนมแม่สำหรับคุณแม่มือใหม่ ทำตามนี้รับรองพุ่งปรี๊ด!
Kankanid
Content Manager at Mama's Choice