ใต้วงแขนที่ดำคล้ำ คือ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่มักเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้คุณแม่รู้สึกไม่มั่นใจเหมือนเมื่อก่อน แล้วจะดูแลอย่างไรให้ใต้วงแขนที่ดำคล้ำกลับมากระจ่างใสอีกครั้ง? มาดูกันได้ที่นี่เลยค่ะ!
สาเหตุของใต้วงแขนดำคล้ำในระหว่างตั้งครรภ์
ตามหลักการแล้วผิวใต้วงแขนควรมีสีเดียวกับผิวส่วนอื่นๆ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีผิวใต้วงแขนดำคล้ำแบบกะทันหันอาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ในระหว่างตั้งครรภ์ การผลิตเม็ดสีเมลานินในร่างกายของคุณแม่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากฮอร์โมน MSH (Melanocyte Stimulating Hormone) ได้รับการกระตุ้น เป็นผลทำให้ผิวใต้วงแขนของคุณแม่ตั้งครรภ์มีสีเข้มขึ้นหรือดำคล้ำขึ้นได้นั่นเองค่ะ
ที่สำคัญอาการดำคล้ำของผิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ยังไม่สามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย
2. เกิดการอักเสบและระคายเคืองต่อผิวหนัง
สีผิวใต้วงแขนที่คล้ำขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ยังสามารถรุนแรงขึ้นได้อีก หากผิวหนังเกิดการอักเสบจากการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การแว็กซ์ การโกน หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และอะลูมิเนียม
3. การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วของผิวใต้วงแขนอาจทำให้ผิวคล้ำขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งเซลล์ผิวที่ตายแล้วมักจะเกิดจากการขับเหงื่อมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์และไม่ได้รับการดูแลหรือทำความสะอาดอย่างทันท่วงที
วิธีการบำรุงและดูแลผิวใต้วงแขนที่ดำคล้ำในระหว่างตั้งครรภ์?
โชคดีที่ปัญหาผิวใต้วงแขนดำคล้ำของคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ใช่ปัญหาแบบถาวรและสามารถบำรุงหรือดูแลให้กลับมากระจ่างใสเหมือนเดิมได้ อย่างไรก็ตาม การทำให้ผิวใต้วงแขนของคุณแม่แต่ละคนกลับมากระจ่างใสเหมือนเดิมอาจจะใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลของคุณแม่แต่ละคน
ดังนั้น ในบทความนี้ Mama’s Choice ก็มีเคล็ดลับดีๆ ในการบำรุงและดูแลผิวใต้วงแขนของคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกันด้วย ตามเรามาดูที่ด้านล่างนี้กันเลย!
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
การได้รับแสงแดดจะทำให้สีผิวของคุณแม่ครรภ์เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น เพราะเมื่อรังสี UV ซึมเข้าสู่ผิวหนังจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นในส่วนที่เราเรียกว่า “เมลาโนไซต์” ให้ผลิตเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเพื่อปกป้องเซลล์ผิวจากรังสี UV
ด้วยเหตุนี้ หากคุณแม่ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ว่ายน้ำหรือออกไปเที่ยวช่วงวันหยุดก็อย่าลืมใช้ครีมกันแดดที่ปลอดภัยทั้งกับคุณแม่และเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะ
2. อย่าแว็กซ์หรือโกนขนใต้วงแขน
การแว็กซ์หรือการโกนเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการกำจัดขนใต้วงแขนในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ แต่วิธีการนี้ก็อาจทำให้ผิวใต้วงแขนได้รับการเสียดสี รู้สึกเจ็บ เกิดบาดแผล การอักเสบ และคล้ำขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ คุณแม่ควรลดความถี่ของการกำจัดขนใต้วงแขนในระหว่างตั้งครรภ์
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
ในระหว่างตั้งครรภ์ แน่นอนว่าคุณแม่หลายคนมักเลือกที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายบ่อยขึ้นถูกต้องไหมคะ? แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อะลูมิเนียม และน้ำหอมอาจทำให้ผิวใต้วงแขนของคุณแม่เกิดอาการระคายเคือง บอบบางมากยิ่งขึ้น ผิวใต้วงแขนหนาขึ้น หยาบกร้าน ดำคล้ำขึ้น และที่สำคัญยังเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์อีกด้วยนั่นเองค่ะ
เราขอแนะนำ Mama’s Choice Dry Serum Deodorant ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสูตรแรกที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ปราศจากแอลกอฮอล์ อะลูมิเนียม และพาราเบน
เนื้อเซรั่มทำให้ซึมซาบเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น แร่ธาตุจากทะเลเดดซี วิตามินบี 3 และสารสกัดจากเลมอน
ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 199.- จาก 256.- | จัดส่งฟรี! เมื่อช้อปครบ 300.-
ผสานพลังด้วยสูตร Triple Action Formula ทำให้มีประสิทธิภาพในการควบคุมการขับเหงื่อ บำรุง และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวใต้วงแขนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ปราศจากแอลกอฮอล์ อะลูมิเนียม พาราเบน และสารพิษอื่นๆ ทำให้คุณแม่มั่นใจได้เลย ปลอดภัย 100%
ที่สำคัญเสียงรีวิวของคุณแม่หลายๆ คนยังกล่าวด้วยว่าผลิตภัณฑ์ของเราให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกสบายตัว ให้ความรู้สึกมั่นใจตลอดทั้งวัน หมดกังวลเรื่องเหงื่อและกลิ่นตัวไปเลย!
ทั้งหมดนี้ เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผิวใต้วงแขนของคุณแม่จึงดำคล้ำขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ รวมไปถึงวิธีการบำรุงและจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น มาเริ่มดูแลผิวด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรเพื่อปกป้องสุขภาพของแม่และลูกน้อยกันนะคะ!
อ้างอิง
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เคล็ดลับในการเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
วิธีลดกลิ่นกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
อาการ คลื่นไส้ ตอนท้อง เกิดจากอะไร รับมืออย่างไรดี
Wanvisa
